คริสตี้ฟรองซ์ สาขาเพชรบุรี แฟนเพจ

กด Like อัพเดทข่าวสาร สุขภาพ ความสวย ความงาม ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

คริสตี้ฟรองซ์ สาขาเพชรบุรี โทร (032) 439-400

ลดกระชับสัดส่วน ลดเฉพาะจุด ดูแลความงาม ลดน้ำหนักคุณแม่หลังคลอด ผิวสวย หน้าใส

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดความอ้วน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดความอ้วน แสดงบทความทั้งหมด

26 มกราคม 2558

10 วิธีเปลี่ยนบ้านช่วยลดอ้วน

สภาพแวดล้อมที่บ้านมีอิทธิพลต่อการทานอาหารและรูปร่างมาก หากอยากหุ่นดีเรามีวิธีแนะนำ การเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในบ้านให้เป็นบ้านคนผอมมีอยู่ 10 ข้อ คือ


คนอ้วน






1.ไม่ควรมีโทรทัศน์อยู่ที่โต๊ะอาหาร เพราะการดูโทรทัศน์ไปด้วยกินไปด้วย ทำให้เผลอกินแบบไร้สติ จนอาจทำให้กินเยอะกว่าปกติได้ 
2.ใช้จานชามขนาดเล็ก เพราะมีงานวิจัยพบว่าขนาดจานมีผลต่อปริมาณการกิน คือเมื่อเห็นว่ามีของดูน้อยก็จะกินมากกว่าปกติได้
3.กินข้าวด้วยตะเกียบ จะทำให้กินได้ช้าลง น้อยลง และยังกินน้ำมันและซอสจากอาหารได้น้อยกว่ากินด้วยช้อน
4.ไม่ตุนน้ำอัดลม น้ำชา เพราะเครื่องดื่มเติมน้ำตาลมีผลต่อความอ้วน



5.ไม่ตุนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกจากอยู่ในภาวะจำเป็นจริงๆ เพราะบ่อยครั้งที่เรามักกินอาหารเหล่านี้ในช่วงดึก ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ควรกินอะไรเลย
6.ตุนผักผลไม้ เช่น แครอท มะเขือเทศ เชอร์รี แช่เย็นไว้ใช้กินเป็นของว่างแทนขนมต่างๆ ได้ และยังเป็นแหล่งของวิตามินและเส้นใยอาหารด้วย
7.มีอุปกรณ์กีฬาง่ายๆ ติดบ้าน เช่น เชือกสำหรับกระโดด ห่วงฮูลาฮูปแบบตัน รองเท้าผ้าใบ จะทำให้เพิ่มกิจกรรมออกกำลังได้มากขึ้น
8.บ้านสะอาด การทำความสะอาดบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูดฝุ่น กวาดใบไม้ เป็นกิจกรรมเรียกเหงื่อได้อย่างดี
9. ตั้งกฎจำกัดการดูโทรทัศน์ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า จำนวนชั่วโมงที่นั่งดูโทรทัศน์หรือนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ แปรผันตรงกับความเสี่ยงที่จะอ้วนง่าย โดยเฉพาะติดจนนอนดึก จึงไม่ควรดูโทรทัศน์เกินกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน

10.ติดข้อความเสริมสร้างแรงบันดาลใจ ติดอยู่ตามมุมต่างๆ ของบ้าน เพราะลดน้ำหนักนั้น ต้องเริ่มที่ใจเป็นอันดับแรก เมื่อลดน้ำหนักลงก็จะทำให้สุขภาพดีขึ้นตามมา

20 มิถุนายน 2556

ไม่ต้องอดก็ลดได้ กับคุณชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

เคล็ดลับหุ่นสวยและการลดความอ้วน กับคุณเจ็ม ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

ไม่ต้องอด ไม่ต้องกินยาลดอ้วน ก็ลดความอ้วนได้ กับคุณเจ็ม ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐี ผู้ประกาศข่าวช่อง 7 ได้ให้ ให้สัมภาษณ์ใน นิตยสารสุขภาพดี เดือน พ.ค.56


ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

เรียนรู้หลักโภชนาการ-รู้จักอาหาร

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากความรู้ ความสามารถของ “อาชีพผู้ประกาศข่าว”แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ต้องดูดีหน้าเชื่อถือ อาชีพนี้ต้องทำงานอยู่หน้ากล้อง เรียกได้ว่าภาพลักษณ์ที่ดีของ ผู้ประกาศข่าว ก็ถือเป็นหน้าตาของช่วงเวลาข่าวหรือช่องข่าวนั้นๆเอง

  คุณเจ็ม-ชมพูนุช ดัณฑเศรษฐี ผู้ประกาศข่าวสาวคนเก่งคนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาวทำงานคนเก่งที่เคยดูอวบอยู่พักหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คุณเจ็มดูสดใส และหุ่นเฟิร์มมาก “ทุกวันนี้เจ็มจะใส่ใจในการดูแลตัวเองทั้งเรื่องของสุขภาพที่ดี อาหารการกิน และการพยายามดูแลรูปร่างของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ถ้าเทียบกันถือว่าทุกวันนี้ดูแลตัวเองมากขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะมาก(ลากเสียง) แต่จะว่าไปแล้วโดยส่วนตัวเป็นคนสนใจเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว เราเป็นผู้หญิงเรื่องของความสวยความงาม อย่างไรก็หนีกันไม่พ้นค่ะ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานที่เร่งรีบ เช้าเราต้องทำกิจกรรมส่วนตัว ส่งลูกไปโรงเรียนแล้วต้องรีบกลับมาอ่านข่าว 11.00 น. ถึงเกือบ 13.00 น. เราอ่านข่าว 11 โมงก็จริง แต่ก่อนหน้านี้เราต้องเตรียมตัว ทั้งศึกษาหัวข้อข่าว แต่งหน้าแต่งตัวซึ่งก็ต้องใช้เวลา จากจุดนี้เองที่ทำให้เราทานอาหารไม่เป็นเวลา เมื่อไม่เป็นเวลาเลยทำให้ร่างกายหิวจัดทานเยอะในแต่ละมื้อ ทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวตามมา

  “ช่วงที่น้ำหนักตัวค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยส่วนตัวยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นคนที่มีความสุขกับการทานอาหาร ชอบทางเบเกอรี่เป็นชีวิตจิตใจ เรื่องของโรคภัยเราก็ยังไม่มี ดังนี้จึงไม่กระตือรือร้นที่จะลดน้ำหนัก(ยิ้ม) จนกระทั่งฝ่ายคอสตูม เริ่มบ่นเรื่องของการเลือกเสื้อผ้าให้เจ็มใส่ตอนทำงาน คือ จะเลือกยากมาก(หัวเราะ)ใส่อะไรก็อ้วน แล้วยิ่งเราเห็นตัวเองในจอทีวี ตามประสาผู้หญิงที่รักสวยรักงาม โดยเฉพราะเราที่มีงานหน้าจอ แล้วอาชีพผู้ประกาศข่าวต้องมีบุคลิกที่คล่องแคล่วด้วย เราก็เลยต้องคิดใหม่ เริ่มอยากลดน้ำหนัก ก็เริ่มหาวิธีลดน้ำหนัก “วิธีการหาวิธีลดน้ำหนัก ด้วยที่เราต้องค้นคว้าข้อมูล เพื่ออ่านข่าว เราจะรู้ว่าวิธีการไหนถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องคือเรื่องของหลักโภชนาการที่ดี และการควบคุมอาหาร(ไม่ใช่การอดอาหาร) “ทุกวันนี้เจ็มให้ความสำคัญกับอาหาร โดยเฉพารหลักโภชนาการอาหาร และพลังงานที่ได้จากอาหารและพลังงานที่ใช้ไป โดยจะใช้วิธีการคำนวณแคลอรีที่ได้รับจากอาหารที่ทานเข้าไป ซึ้งไม่ได้เป๊ะมาก แค่รู้คร่าวๆก็พอแล้ว

  “โดยปกติคนเราไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หรืองดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพียงแค่รู้จักควบคุมปริมาณแคลอรีที่ทานเข้าไปในแต่ละวันให้ไม่มากเกินความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว วันไหนเรารู้สึกว่าอยากทานอาหารอะไรที่มีปริมาณแคลอรีมาก คุณก็สามารถทานได้นะ เพียงแต่ว่าในมื้ออื่นๆของวันนั้นควรเลือกอาหารที่มีปริมาณแคลอรีน้อยลงมา แต่อิ่มท้อง แค่นั้นเราก็สามารถควบคุมอาหารได้อยางมีความสุขแล้ว
  “นอกจากนี้ก็ควรเลี้ยงอาหารให้พลังงานสูงแต่คุณค่าอาหารต่ำ เน้นอาหารที่ให้คุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพราะโปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและกระบวนการเผาผลาญ ทานผักและผลไม้มากๆ จะช่วยในการขับถ่าย และดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นของทุกเซลล์ในอวัยวะของร่างกาย เมื่อปริมาณค่าแคลอรีจากอาหารที่ได้รับให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ เราก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงและน้ำหนักพอดีด้วยค่ะ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนคือการเลี่ยงเครื่องดื่มหวานๆ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ เผลอๆให้พลังงานสูงเท่ากับอาหารบางเมนูด้วยซ้ำ เลี่ยงไปทานน้ำปล่าวแทน ถือเป็นการหักดิบที่ยากทีเดียวแต่พอทำได้ผลเรื่องสุขภาพและน้ำหนักตัว

  “เรื่องของอาหารผ่านไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของการออกกำลังกาย ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเจ็มด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว เราจะมีเวลาว่างเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จึงใช้โอกาสนี้ไปออกกำลังกายที่สปอร์ตคลับ เล่นเครื่องบ้าง โยคะบ้าง สลับกันไป เครื่องเล่นจะช่วยให้ร่างกายเราเผาผลาญ ส่วนโยคะจะเป็นเหมือนการยืดเส้น ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดเมื่อยได้ด้วย รวมถึงทำให้ระบบในร่างกายเรามีความสมดุลขึ้น บุคลิกภาพก็จะดีขึ้นตามมา  

“แต่อย่างที่บอกว่าด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย เต็มที่ก็สัปดาห์ละ 2 วัน คือ เสาร์-อาทิตย์อย่างที่บอก ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่กับการออกกำลังกายประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เจ็มจึงเพิ่มตัวช่วยด้วยการปรึกษาผู้เชียวชาญด้านสุขภาพและความงามอย่างสถาบันลดน้ำหนักคริสตี้ฟรองช์ ซึ่งเราก็ได้ความรู้เรื่องหลักโภชนาการ และการรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีจากที่นี่รวมถึงคำแนะนำเรื่องของการดูแลรูปร่างและสัดส่วนให้ดูดี

  “จริงๆ ปัญหาของคนที่อ้วนจะมีไม่กี่อย่าง คือเรื่องของไขมันทั้งที่ต้นขา ต้นแขน สะโพกและหน้าท้อง ทำให้ใส่เสื้อผ้าก็จะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ค่ะ ทางผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยแก้ไขจุดที่มีปัญหาให้จนรู้สึกพอใจกับรูปร่างและสัดส่วนของตัวเองมากขึ้น การแต่งตัวได้ง่ายขึ้น(ยิ้ม) และที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพเราดีขึ้นด้วย
 
คริสตี้ฟรองซ์ สถาบันลดน้ำหนัก

“เจ็มเชื่อว่าการที่เรามีสุขภาพที่ดี เราก็จะมีโอกาสพบเจอเรื่องราวดีๆได้ เจ็มจะไม่ค่อยซีเรียสตัวเลขของน้ำหนักเท่ากับสุขภาพที่ดี บางคนอาจไปยึดติดที่ตัวเลขของน้ำหนัก ผู้หญิงเรามักจะขอให้น้อยไว้ก่อนเป็นดี ซึ่งหากไปถามแต่ละคนย่อมมีความพอใจในตัวเลขต่างกัน เราจึงเห็นคนที่ผอมเกินไป ตรงกันข้ามก็อ้วนเกินไปมากมาย โดยส่วนตัวแล้วตัวเลขของน้ำหนักไม่มีผลกับเจ็มเท่าไร แต่จะให้ความสำคัญกับสัดส่วนที่เข้าที่เข้าทางพอดีกับตัวเองมากกว่า นอกจากจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไปตามไลฟ์สไตล์ของเราแล้ว พอเรามีความสุขก็จะส่งผลต่อการทำงาน และสิ่งดีต่างๆ ก็ตามมาค่ะ “คนเราไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรืออดมื้ออาหาร เพียงแค่รู้จักควบคุมปริมาณแคลอรีที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ให้ไม่มากเกินความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”




“ถามว่าจากวันที่เราหันมาใส่ใจตัวเองเพิ่มมากขึ้น ได้รับอะไรตอบแทนบ้าง เจ็มบอกได้เลยว่าสุขภาพเจ็มดีขึ้นมาก ไม่ค่อยป่วย แทบไม่ค่อยเป็นหวัด สุขภาพกายดีมากคือในเมื่อเรามีความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้อง เรารู้จักการควบคุมอาหารที่ไม่ต้องทรมาน เคยลองผิดลองถูกไหมตอบเลยว่า เคยค่ะ(ยิ้ม) ยาลดความอ้วนก็เคย แต่ทานได้ช่วงเดียวเพราะเจ็มมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคลมชัก ซึ่งไม่ควรทำให้หัวใจสั่น แต่เจ้ายาลดความอ้วนเป็นตัวยาที่ทำให้ใจสั่นเลย สั่นแบบทำงานไม่ได้ มือไม้สั่นไปหมด ผอมไหม ก็ผอมลงนะ แต่ผอมแบบโทรมๆ ไม่สดใส สุดท้ายก็หยุดทานไปแบบไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย  

“โภชนาการตามหลักธรรมชาติคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เน้นการทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และให้พลังงานต่ำ เราทราบมาว่า เมื่อร่างกายเรารับโปรตีนมากทำให้เราอิ่มนานและประโยชน์ที่ดีอีกอย่างคือ โปรตีนจะสามารถเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญมาก หากยิ่งเผาผลาญมากก็ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนเรื่องสุขภาพจิต เมื่อร่างกายเราแข็งแรง ก็พร้อมทำในสิ่งที่อยากทำมากขึ้น ส่งผลรวมต่อจิตใจให้มีความสุขตาม นอกจากนี้ การทำงานเป็นการสร้างคุณค่าในตัวเองได้ค่ะ”

22 กุมภาพันธ์ 2556

สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก การลดน้ำหนักผิดวิธี

นก-ชลิดา (เถาว์ชาลี) ตันติพิภพ อดีตนางสาวไทย ปี 2541 เธอเป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านประสบการณ์ลดน้ำหนัก และการควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีผิดๆ มาตลอดกว่า 10 ปี จนเป็นโรคบลูลิเมีย จากนั้นก็หันมาใช้ยาลดน้ำหนักจนร่างกายผ่ายผอม สุขภาพทรุดโทรม แต่วันนี้เธอหันหลังให้กับวิธีผิดๆ เหล่านั้น และเลือกควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีเลือกรับประทานอาหาร ซึ่งนั่นทำให้เธอได้สุขภาพกายและใจที่แข็งแรงกลับคืนมา จึงอยากถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในเรื่องการลดน้ำหนักว่าเป็นอย่างไร ให้กับทุกท่านที่กำลังคิดจะลดความอ้วนอย่างผิดวิธีได้นำมาปรับและเป็นแง่คิด



ชลิดา เถาว์ชาลี

เป็นโรคบลูลิเมีย
นกเป็นคนไทยแต่เกิดที่อเมริกา พอ 5 ขวบก็ย้ายมาอยู่เมืองไทย พออายุ 16 ปี ก็กลับไปอเมริกาอีก ตอนอยู่อเมริกาก็เริ่มเป็นวัยรุ่น เลยกลัวอ้วน ตอนนั้นหนัก 70 กก. เวลากินก็รู้สึกผิดไปหมด ต้องไปอาเจียนออกให้หมด เป็นแบบนี้มาตลอดแต่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่สบาย มารู้ก็ตอนช่วงที่เรียนพยาบาลอยู่ปี 3 อาจารย์ให้ไปดูแลคนไข้ เขาเป็นโรคบลูลิเมียและมีอาการแบบนกเลย นกเล่าให้คุณแม่ฟัง แม่นกเป็นพยาบาลก็พยายามรักษานกด้วยตัวเอง แต่ไม่หายสักที จนต้องไปพบจิตแพทย์ ในที่สุดนกมาคิดได้ว่า เราต้องรู้คุณค่าของตัวเอง ถ้ามัวแต่เครียดและไม่พอใจตัวเองแบบนี้ไปเรื่อย จะมีแต่แย่ลง พอเราเริ่มตระหนักเห็นคุณค่าของตัวเองและได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ในที่สุดก็สามารถหายจากโรคบลูลิเมียได้

เริ่มใช้ยาลดน้ำหนัก
พอกลับมาเมืองไทย นกเข้าประกวดนางสาวไทย ก็เป็นห่วงเรื่องน้ำหนักตัวและคิดอยากให้ผอมลงกว่าเดิม จึงคิดลดน้ำหนักอีก แต่คราวนี้เลือกใช้ยาในการลดน้ำหนัก การใช้ยาลดความอ้วน ตอนแรกให้ผลดีมาก น้ำหนักลดลงเร็ว แต่ไม่นานก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีก นกใช้ยาลดความอ้วนอยู่ 3 ปี ก็ต้องไปหาหมอตลอด ซึ่งหมอก็จะให้ยาที่มีขนาดแรงขึ้นๆ พอใช้ไปเรื่อยๆ น้ำหนักจะลดช้าลง เพราะเราเกิดอาการดื้อยาและถ้าไม่ใช้ยาต่อเนื่องมันก็เกิดโยโย่เอฟเฟ็กต์ได้ ตอนนั้นน้ำหนักลดเหลือ 51 กก. พอโยโย่น้ำหนักก็จะขึ้นมาถึง 60 กก. ก็ต้องกินยาอยู่อย่างนั้นไปตลอด

โทรมสุดขีดเพราะฤทธิ์ยา
ช่วงที่ใช้ยาก็จะมีอาการใจสั่น เล็บเหลือง ผมร่วง หลับบ้างไม่หลับบ้าง ทุกอย่างมันแย่ไปหมด จนวันหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุด นกได้มีเวลามามองตัวเอง ส่องกระจกดูหน้าเรา ตอนปราศจากเครื่องสำอาง ก็เริ่มเห็นว่าร่างกายทรุดโทรมลงไปมาก อ่อนแอลง ผิวพรรณไม่สดใส ร่างกายไม่สดชื่น คุณหมอเคยบอกว่า ยาลดความอ้วนที่นกกินอยู่มีความเข้มข้นที่ระดับ 6 จากทั้งหมด 7 ระดับ ซึ่งมันเป็นขั้นที่แรงมากเลยและเราได้พอเห็นสภาพที่ทรุดโทรมของตัวเอง นกบอกตัวเองเลยว่า จะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกแล้ว เพราะกลัวตาย และก็เลิกยาลดน้ำหนัก หันมาสนใจเรื่องอาหารแทน

สู่วิธีที่ดี-ควบคุมอาหาร
ถ้าอยากลดน้ำหนัก แนะนำว่าอย่าใช้ยาหรืออดอาหาร นกใช้หลักการกินอาหารแบบไรท์แอนด์โลว์คาร์บ คือ กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและดีต่อร่างกาย ซึ่งมีอยู่ทั้ง 3 ช่วง ช่วงที่ 1 ชีวิต Sugar-Free เน้นกินแต่เฉพาะกับข้าวและผัก งดน้ำตาล ช่วงที่ 2 เพิ่มผลไม้และโฮลเกรน ช่วงนี้กินพวกคาร์โบไฮเดรตได้ เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ช่วงที่ 3 เป็นตัวของตัวเอง จะกินอะไรก็ได้ แต่ควรเลือกเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย