คริสตี้ฟรองซ์ สาขาเพชรบุรี แฟนเพจ

กด Like อัพเดทข่าวสาร สุขภาพ ความสวย ความงาม ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

คริสตี้ฟรองซ์ สาขาเพชรบุรี โทร (032) 439-400

ลดกระชับสัดส่วน ลดเฉพาะจุด ดูแลความงาม ลดน้ำหนักคุณแม่หลังคลอด ผิวสวย หน้าใส

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Junk Food แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Junk Food แสดงบทความทั้งหมด

4 กุมภาพันธ์ 2560

กินปลาอย่างไรให้มีประโยชน์ : ต้ม นึ่ง หรือ ทอด

คำไทยมีคำเกี่ยวกับการกินปลา มีคำว่า “หุงข้าว ต้มปลา” “ปิ้งปลาประชดแมว” ไม่มีคำว่า “ทอดปลา” ในคำไทยแต่โบราณคนจีนก็นึ่งปลา ต้มปลากิน เป็นส่วนใหญ่ การกินปลาแบบ นึ่ง ต้ม ปิ้ง ที่ใช้ความร้อนไม่สูงเท่าการทอดน้ำมัน จะมีผลต่อสุขภาพต่างกันหรือไม่?

ต้มปลา

การศึกษาไปข้างหน้าในหญิงชาวอเมริกัน อายุ 50 ถึง 79 ปี 84,000 กว่าคน ติดตามโดยเฉลี่ย 10 ปี (จนถึงเดือนสิงหาคม 2551 พบว่า การกินปลาอบหรือปลาต้มเป็นอาหารหลักมากกว่าหรือเท่ากับ 5 มื้อต่อสัปดาห์ ลดโอกาสเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวตามมาร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับกินน้อยกว่า 1 มื้อต่อเดือน ส่วนกลุ่มผู้หญิงที่กินปลาทอดเป็นอาหารหลักมากกว่าหรือเท่ากับ 1 มื้อต่อสัปดาห์ เพิ่มโอกาสเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับกินน้อยกว่า 1 มื้อต่อเดือน หลังจากปรับปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องแล้ว


สรุปว่าการกินปลาต้มหรือปลานึ่ง ยิ่งกินมาก ยิ่งลดโอกาสหัวใจล้มเหลว ตรงข้ามกับ การกินปลาทอด ยิ่งกินมาก ยิ่งเพิ่มโอกาสหัวใจล้มเหลว

ดังนั้น การกินปลาให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพควรกินแบบโบราณ ที่ต้มปลา นึ่งปลากิน หลีกเลี่ยงการกินปลาทอด “กินปลา แต่อย่าทอด” สัปดาห์ละ 2 ถึง 3 มื้อ ก็เพียงพอแล้ว จะเป็นปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด ก็ได้ทั้งนั้น

31 ธันวาคม 2559

ประโยชน์ของ "ผักโขม"

             ผักโขม สรรพคุณของผักโขมและประโยชน์ของผักโขม นั้นมีมากๆไม่แพ้พืชผักสมุนไพรไหนๆเลยค่ะและวันนี้เราก็นำความรู้ของสรรพคุณของผักโขมและประโยชน์ของผักโขมมาบอกกล่าวให้คุณๆได้ฟังกันด้วยค่ะ ต่อไปจะได้หันมาทานผักโขมกันเยอะๆนะค่ะ นั้นเรามาดูสรรพคุณของผักโขมและประโยชน์ของผักโขมกันเลยดีกว่านะค่ะ    



ผักโขม มีประโยชน์



สรรพคุณ/ประโยชน์ของผักโขม คุณค่าทางอาหารของผักโขม
       เป็นผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ กรดโฟเลต แคโรทีน วิตามินซี โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี โปรตีน และไฟเบอร์
       เปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกัน โรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด
       ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ วิตามินเอช่วยบำรุงรักษาสายตาบำรุงกระดูกและฟันวิตามินซีช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้ปลอดภัยจากโรค ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ผักโขมยงมีธาตุเหล็กสูงและช่วยบำรุงเลือดอีกด้วย
       เป็นผักสุขภาพชั้นยอดในใบผักโขมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดแอมิโน และสารอาหารอื่นๆเช่น ธาตุเหล็กแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง
       นอกจากนั้นในผักโขมยังมีเบต้าแคโรทีนสูงมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดอีกด้วยผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมากจึงช่วยระบบขับถ่ายและลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้

       นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้นมีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม  อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก

ผักโขม มีประโยชน์

             
สรรพคุณของผักโขม
       ผักโขมใบสดมีสรรพคุณรักษาแผลพุพองต้นมีสรรพคุณแก้อาการแน่นหน้าอกและไอหอบและรากช่วยดับพิษร้อนถอนพิษไข้ขับถ่ายปัสสาวะ
       ผักโขม หั่นรากปรุงเป็นยาถอนพิษร้อนแก้คันถอนพิษไข้แก้เสมหะขับปัสสาวะมักจะใช้เป็นยาสมุนไพร่วมกับผักโขมหิน
       ผักโขมหนามรากผักโขมหนามเป็นยาแก้ตกเลือดแก้ฝีแก้ขี้กลากเป็นยาขับน้ำนมแก้แน่นท้อง แก้พิษ แก้ช้ำใน แก้ไข้ระงับความร้อน แก้เด็กลิ้นเป็นฝ้าละอองเบื่ออาหาร


3 กุมภาพันธ์ 2558

อ้วนมากเกินไป วิตามินดีถูกทำลาย



มีผลงานวิจัยในปี 2014 หลายชิ้นที่มีความเห็นตรงกันว่า วิตามินดี กับความอ้วนเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกันอยู่ ส่วนหนึ่งเพราะวิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการสร้างฮอร์โมนอิ่ม และยังเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของโรคอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่มีน้ำหนักตัวเกิน มีไขมันในร่างกายสูง ระดับวิตามินดีในร่างกายก็จะน้อยลงด้วย ทำให้สามารถกินอาหารได้เยอะโดยไม่รู้สึกอิ่ม จึงควบคุมน้ำหนักตัวได้ยาก และยังมีความเสี่ยงเป็นโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อได้ง่ายด้วย ได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคลำไส้อักเสบ ( Crohn's Disease) โรคเบาหวานประเภท 2 และโรคปลอกประสาทอักเสบ ((Multiple Sclerosis)

เพราะฉะนั้นรีบหันมาลดน้ำหนักกันเถอะครับ (ทานโภชนาการที่ดี 80% ออกกำลังกาย 20%)

2 มีนาคม 2556

ชาวจีนอ้วนเพราะ Junk Food


 
ปัจจุบันมีชาวจีนถึง 60 ล้านคนที่มีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน ทั้งนี้เพราะชาวจีนส่วนใหญ่นิยมทางอาหารที่มีไขมันและอาหารจำพวก Junk Food กันมากขึ้น แต่ทานอาหารพวกเมล็ดธัญพืชและผักน้อยลง ซึ่งอาหารดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้แนวโน้มอ้วนขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากขึ้นอีกด้วย โดยจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขจีนพบว่า ในปี 2005 ที่ผ่านมา ชาวจีนเป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 160 ล้านคน ซึ่งเพิ่มจำนวนมาจากเดิมที่มีชาวจีน 90 ล้านคนเป็นโรคนี้ในปี 1981 โดย 20 ล้านคนในจำนวนนี้เป็นโรคเบาหวานด้วย

 ได้ยินอย่างนี้สาวไทยอย่างเราก็อย่าทานจั๊งก์ฟู้ดมากเกินไปละ ไม่งั้นโรคอ้วนถามหาได้โดยไม่รู้ตัว