20 มิถุนายน 2556

ไม่ต้องอดก็ลดได้ กับคุณชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

เคล็ดลับหุ่นสวยและการลดความอ้วน กับคุณเจ็ม ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

ไม่ต้องอด ไม่ต้องกินยาลดอ้วน ก็ลดความอ้วนได้ กับคุณเจ็ม ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐี ผู้ประกาศข่าวช่อง 7 ได้ให้ ให้สัมภาษณ์ใน นิตยสารสุขภาพดี เดือน พ.ค.56


ชมพูนุช ตัณฑเศรษฐ

เรียนรู้หลักโภชนาการ-รู้จักอาหาร

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากความรู้ ความสามารถของ “อาชีพผู้ประกาศข่าว”แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ต้องดูดีหน้าเชื่อถือ อาชีพนี้ต้องทำงานอยู่หน้ากล้อง เรียกได้ว่าภาพลักษณ์ที่ดีของ ผู้ประกาศข่าว ก็ถือเป็นหน้าตาของช่วงเวลาข่าวหรือช่องข่าวนั้นๆเอง

  คุณเจ็ม-ชมพูนุช ดัณฑเศรษฐี ผู้ประกาศข่าวสาวคนเก่งคนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาวทำงานคนเก่งที่เคยดูอวบอยู่พักหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คุณเจ็มดูสดใส และหุ่นเฟิร์มมาก “ทุกวันนี้เจ็มจะใส่ใจในการดูแลตัวเองทั้งเรื่องของสุขภาพที่ดี อาหารการกิน และการพยายามดูแลรูปร่างของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ถ้าเทียบกันถือว่าทุกวันนี้ดูแลตัวเองมากขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะมาก(ลากเสียง) แต่จะว่าไปแล้วโดยส่วนตัวเป็นคนสนใจเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว เราเป็นผู้หญิงเรื่องของความสวยความงาม อย่างไรก็หนีกันไม่พ้นค่ะ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานที่เร่งรีบ เช้าเราต้องทำกิจกรรมส่วนตัว ส่งลูกไปโรงเรียนแล้วต้องรีบกลับมาอ่านข่าว 11.00 น. ถึงเกือบ 13.00 น. เราอ่านข่าว 11 โมงก็จริง แต่ก่อนหน้านี้เราต้องเตรียมตัว ทั้งศึกษาหัวข้อข่าว แต่งหน้าแต่งตัวซึ่งก็ต้องใช้เวลา จากจุดนี้เองที่ทำให้เราทานอาหารไม่เป็นเวลา เมื่อไม่เป็นเวลาเลยทำให้ร่างกายหิวจัดทานเยอะในแต่ละมื้อ ทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวตามมา

  “ช่วงที่น้ำหนักตัวค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยส่วนตัวยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นคนที่มีความสุขกับการทานอาหาร ชอบทางเบเกอรี่เป็นชีวิตจิตใจ เรื่องของโรคภัยเราก็ยังไม่มี ดังนี้จึงไม่กระตือรือร้นที่จะลดน้ำหนัก(ยิ้ม) จนกระทั่งฝ่ายคอสตูม เริ่มบ่นเรื่องของการเลือกเสื้อผ้าให้เจ็มใส่ตอนทำงาน คือ จะเลือกยากมาก(หัวเราะ)ใส่อะไรก็อ้วน แล้วยิ่งเราเห็นตัวเองในจอทีวี ตามประสาผู้หญิงที่รักสวยรักงาม โดยเฉพราะเราที่มีงานหน้าจอ แล้วอาชีพผู้ประกาศข่าวต้องมีบุคลิกที่คล่องแคล่วด้วย เราก็เลยต้องคิดใหม่ เริ่มอยากลดน้ำหนัก ก็เริ่มหาวิธีลดน้ำหนัก “วิธีการหาวิธีลดน้ำหนัก ด้วยที่เราต้องค้นคว้าข้อมูล เพื่ออ่านข่าว เราจะรู้ว่าวิธีการไหนถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องคือเรื่องของหลักโภชนาการที่ดี และการควบคุมอาหาร(ไม่ใช่การอดอาหาร) “ทุกวันนี้เจ็มให้ความสำคัญกับอาหาร โดยเฉพารหลักโภชนาการอาหาร และพลังงานที่ได้จากอาหารและพลังงานที่ใช้ไป โดยจะใช้วิธีการคำนวณแคลอรีที่ได้รับจากอาหารที่ทานเข้าไป ซึ้งไม่ได้เป๊ะมาก แค่รู้คร่าวๆก็พอแล้ว

  “โดยปกติคนเราไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หรืองดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพียงแค่รู้จักควบคุมปริมาณแคลอรีที่ทานเข้าไปในแต่ละวันให้ไม่มากเกินความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว วันไหนเรารู้สึกว่าอยากทานอาหารอะไรที่มีปริมาณแคลอรีมาก คุณก็สามารถทานได้นะ เพียงแต่ว่าในมื้ออื่นๆของวันนั้นควรเลือกอาหารที่มีปริมาณแคลอรีน้อยลงมา แต่อิ่มท้อง แค่นั้นเราก็สามารถควบคุมอาหารได้อยางมีความสุขแล้ว
  “นอกจากนี้ก็ควรเลี้ยงอาหารให้พลังงานสูงแต่คุณค่าอาหารต่ำ เน้นอาหารที่ให้คุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพราะโปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและกระบวนการเผาผลาญ ทานผักและผลไม้มากๆ จะช่วยในการขับถ่าย และดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นของทุกเซลล์ในอวัยวะของร่างกาย เมื่อปริมาณค่าแคลอรีจากอาหารที่ได้รับให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ เราก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงและน้ำหนักพอดีด้วยค่ะ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนคือการเลี่ยงเครื่องดื่มหวานๆ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ เผลอๆให้พลังงานสูงเท่ากับอาหารบางเมนูด้วยซ้ำ เลี่ยงไปทานน้ำปล่าวแทน ถือเป็นการหักดิบที่ยากทีเดียวแต่พอทำได้ผลเรื่องสุขภาพและน้ำหนักตัว

  “เรื่องของอาหารผ่านไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของการออกกำลังกาย ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเจ็มด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว เราจะมีเวลาว่างเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จึงใช้โอกาสนี้ไปออกกำลังกายที่สปอร์ตคลับ เล่นเครื่องบ้าง โยคะบ้าง สลับกันไป เครื่องเล่นจะช่วยให้ร่างกายเราเผาผลาญ ส่วนโยคะจะเป็นเหมือนการยืดเส้น ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดเมื่อยได้ด้วย รวมถึงทำให้ระบบในร่างกายเรามีความสมดุลขึ้น บุคลิกภาพก็จะดีขึ้นตามมา  

“แต่อย่างที่บอกว่าด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย เต็มที่ก็สัปดาห์ละ 2 วัน คือ เสาร์-อาทิตย์อย่างที่บอก ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่กับการออกกำลังกายประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เจ็มจึงเพิ่มตัวช่วยด้วยการปรึกษาผู้เชียวชาญด้านสุขภาพและความงามอย่างสถาบันลดน้ำหนักคริสตี้ฟรองช์ ซึ่งเราก็ได้ความรู้เรื่องหลักโภชนาการ และการรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีจากที่นี่รวมถึงคำแนะนำเรื่องของการดูแลรูปร่างและสัดส่วนให้ดูดี

  “จริงๆ ปัญหาของคนที่อ้วนจะมีไม่กี่อย่าง คือเรื่องของไขมันทั้งที่ต้นขา ต้นแขน สะโพกและหน้าท้อง ทำให้ใส่เสื้อผ้าก็จะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ค่ะ ทางผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยแก้ไขจุดที่มีปัญหาให้จนรู้สึกพอใจกับรูปร่างและสัดส่วนของตัวเองมากขึ้น การแต่งตัวได้ง่ายขึ้น(ยิ้ม) และที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพเราดีขึ้นด้วย
 
คริสตี้ฟรองซ์ สถาบันลดน้ำหนัก

“เจ็มเชื่อว่าการที่เรามีสุขภาพที่ดี เราก็จะมีโอกาสพบเจอเรื่องราวดีๆได้ เจ็มจะไม่ค่อยซีเรียสตัวเลขของน้ำหนักเท่ากับสุขภาพที่ดี บางคนอาจไปยึดติดที่ตัวเลขของน้ำหนัก ผู้หญิงเรามักจะขอให้น้อยไว้ก่อนเป็นดี ซึ่งหากไปถามแต่ละคนย่อมมีความพอใจในตัวเลขต่างกัน เราจึงเห็นคนที่ผอมเกินไป ตรงกันข้ามก็อ้วนเกินไปมากมาย โดยส่วนตัวแล้วตัวเลขของน้ำหนักไม่มีผลกับเจ็มเท่าไร แต่จะให้ความสำคัญกับสัดส่วนที่เข้าที่เข้าทางพอดีกับตัวเองมากกว่า นอกจากจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไปตามไลฟ์สไตล์ของเราแล้ว พอเรามีความสุขก็จะส่งผลต่อการทำงาน และสิ่งดีต่างๆ ก็ตามมาค่ะ “คนเราไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรืออดมื้ออาหาร เพียงแค่รู้จักควบคุมปริมาณแคลอรีที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ให้ไม่มากเกินความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”




“ถามว่าจากวันที่เราหันมาใส่ใจตัวเองเพิ่มมากขึ้น ได้รับอะไรตอบแทนบ้าง เจ็มบอกได้เลยว่าสุขภาพเจ็มดีขึ้นมาก ไม่ค่อยป่วย แทบไม่ค่อยเป็นหวัด สุขภาพกายดีมากคือในเมื่อเรามีความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้อง เรารู้จักการควบคุมอาหารที่ไม่ต้องทรมาน เคยลองผิดลองถูกไหมตอบเลยว่า เคยค่ะ(ยิ้ม) ยาลดความอ้วนก็เคย แต่ทานได้ช่วงเดียวเพราะเจ็มมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคลมชัก ซึ่งไม่ควรทำให้หัวใจสั่น แต่เจ้ายาลดความอ้วนเป็นตัวยาที่ทำให้ใจสั่นเลย สั่นแบบทำงานไม่ได้ มือไม้สั่นไปหมด ผอมไหม ก็ผอมลงนะ แต่ผอมแบบโทรมๆ ไม่สดใส สุดท้ายก็หยุดทานไปแบบไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย  

“โภชนาการตามหลักธรรมชาติคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เน้นการทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และให้พลังงานต่ำ เราทราบมาว่า เมื่อร่างกายเรารับโปรตีนมากทำให้เราอิ่มนานและประโยชน์ที่ดีอีกอย่างคือ โปรตีนจะสามารถเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญมาก หากยิ่งเผาผลาญมากก็ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนเรื่องสุขภาพจิต เมื่อร่างกายเราแข็งแรง ก็พร้อมทำในสิ่งที่อยากทำมากขึ้น ส่งผลรวมต่อจิตใจให้มีความสุขตาม นอกจากนี้ การทำงานเป็นการสร้างคุณค่าในตัวเองได้ค่ะ”