27 พฤศจิกายน 2557

รูปร่างของคุณเป็นตัวสะท้อนการใช้ชีวิตของคุณ

รูปร่างของเรา ไม่ว่าจะอ้วนลงพุง จะหุ่นดี จะกล้ามสวย จะผอมแห้ง จะหลังแอ่น จะหลังค่อม และอีกหลายๆอย่าง เป็นผลพวงมาจากการใช้ชีวิตในแต่ละวันๆของเราทั้งสิ้น ซึ่ง "การกิน" เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรามีรูปร่างอย่างที่เราเป็นในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะมีรูปร่างที่ดีนั้น เราก็ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งเล็กๆที่เราทำทุกๆวันนั้นแหละครับ เราต้องหาให้เจอว่าเราจะตัดอะไร จะเพิ่มอะไรเข้าไปที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเราได้




วันนี้จะขอพูดแค่เรื่องลดน้ำหนัก เรื่องอ้วนอย่างเดียวก่อนนะครับ เท่าที่ทำงานสายนี้มานานมากๆ ผมสรุปได้อย่างนึงว่า การที่เรามีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่มีใครเพิ่มจากการกินอาหารมื้อหลักเพียงอย่างเดียว แต่มากกว่า 90% น้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้นจาก "การกินขนมจุกจิก กินขนมหวาน ดื่มน้ำหวานๆ" ในแต่ละวัน ของพวกนี้กินง่าย ให้พลังงานค่อนข้างสูง จึงทำให้เราน้ำหนักตัวขึ้นง่าย พอร่างกายเราได้รับพลังงานเกินกว่าที่ใช้ออกไปสะสมจนครบ 7700 Kcal ไขมันก็จะเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม
ลองคิดง่ายๆนะครับ ถ้าเราดื่มน้ำหวาน 1 แก้ว ซึ่งให้พลังงานประมาณ 150 Kcal ซึ่งสมมุติว่าเป็นส่วนเกินกว่าที่ร่างกายเราใช้ออกไปทุกๆวัน เป็นเวลา 1 ปี เราก็จะสะสมพลังงานในร่างกาย 54750 Kcal ซึ่งจะเท่ากับไขมันประมาณ 7 กิโลกรัม อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างที่แสดงให้ดูว่า ทำไมน้ำหนักเราถึงขึ้นได้ปีละ 10-20 กิโลกรัม (ในกรณีที่เรากินเยอะเกินกว่าที่เราใช้ออกไปมากๆ)


แล้วเราอยากจะลดน้ำหนัก จะต้องทำยังไงดีล่ะ???
ผมเห็นคนส่วนใหญ่อีกเหมือนกัน ห่วงหรือสนใจแต่ว่าอาหารอันนี้กินได้มั้ย อาหารอันนู่นกินได้มั้ย (อาหารในที่นี้ผมหมายถึงข้าว หรือกับข้าวทั่วไป ที่เป็นมื้อหลักๆของเรานะครับ) แต่ไม่เคยสนใจที่จะตัดขนมจุกจิก ขนมหวาน น้ำหวานอย่างเด็ดขาดในแต่ละวันลงเลย ซึ่งเป็นผู้ร้ายตัวเป้ง เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราอ้วนลงพุงเลย
วิธีการเริ่มก็คือ ให้เราค่อยๆลดทีละอย่าง เช่น ถ้าเรากินทั้งขนมจุกจิก กินทั้งเค้ก ไอศครีม ดื่มน้ำหวาน บ่อยมากๆ ให้เราเลือกว่าเราจะลดอะไรเด็ดขาดเป็นอันดับแรก แล้วค่อยๆเพิ่มสิ่งที่จะลดไปเรื่อยๆ หรือค่อยๆลดปริมาณสิ่งที่กิน สิ่งที่ดื่มลง จนลดได้เด็ดขาด ทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ ร่างกายเราจะค่อยๆลดปริมาณการติดหวาน ติดน้ำตาลลง พอเราลดพลังงานที่ได้รับลงเกินกว่าที่ร่างกายใช้ออกไป ร่างกายจะต้องหาแหล่งพลังงานในการสร้างพลังขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็จะเอาไขมันในร่างกายของเรามาใช้เป็นพลังงานแทน ทำไปเรื่อยๆไขมันก็จะลดลงเอง
แล้วถ้าเราอยากกินขนมหวาน หลังจากมื้ออาหาร หรือเราจะต้องมีงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูง กับครอบครัวจะทำยังไงดี??? จะให้ไม่กินเลยหรอ???
กินได้ครับ การกิน การใช้ชีวิตให้มีความสุขเป็นสิ่งสำคัญ ผมแนะนำกินที่จะทำให้อ้วนยากขึ้นครับ

1. กินหลังจากออกกำลังกายหนักๆ หลังจากที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ไกลโคเจนในร่างกาย (ซึ่งมาจากน้ำตาล) จะลดลง เพราะฉะนั้น น้ำตาลจากขนม จากของหวานจะถูกดูดซึม เปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือด และไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นไขมัน ทำให้อ้วนยากขึ้น แต่กล้ามเนื้อผู้หญิงมีน้อย ไกลโคเจนก็สะสมได้น้อย เพราะฉะนั้นอย่ากินเยอะเกินไปล่ะ
ในทางกลับกัน ถ้าเรากินน้ำตาลบ่อยๆ เติมน้ำตาลเข้าไปโดยที่เราไม่เคยเอาไกลโคเจน หรือน้ำตาลที่สะสมในร่างกายมาใช้เลย ร่างกายก็จะนำน้ำตาลส่วนเกิน เปลี่ยนไปเก็นเป็นไขมันเลย ระวังกันไว้นะครับ

2. จะต้องมีการวางแผนการกินที่ดี เช่น
- เราจะไม่กินน้ำหวานในวันที่จะต้องมีงานเลี้ยงขนมหวานกับเพื่อนๆ
- ถ้าเราจะกินน้ำหวาน ขนมหวานๆ เราจะกินแป้งน้อยลง เพิ่มการกินผัก กินโปรตีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดการดูดซึมน้ำตาลให้ช้าลง และโปรตีนจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญด้วย (ถึงแม้ไม่มากก็ตาม)
- วันนั้นเราเพิ่มกิจกรรมให้มากขึ้น จะเดินให้มากขึ้น จะออกกำลังกายก่อนไปเจอเพื่อนๆ
- มีสติขณะกิน อย่าหลุด อยากกินเยอะจนเกินไป ค่อยๆกิน

หวังว่าจะช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ และมีความสุขเพิ่มขึ้นนะครับ อย่าเครียดมาก ลองหาสิ่งที่ทำให้เราน้ำหนักเพิ่ม แล้วเริ่มเปลี่ยนแปลงทุกวันทีละน้อยๆ นั้นแหละจะทำให้เราทำได้ยั่งยืน